บ้านดินเป็นอย่างไร

บ้านดินเป็นอย่างไร ก่อสร้างบ้านดินด้วยตัวเอง เสรีภาพที่การมีชีวิตอยู่

บ้านดินเป็นอย่างไร property phuket ยังจำชายหนุ่มฝรั่งเทวดาคนนี้ได้ไหมครับผม บ้านไอเดียเคยนำคลิปมาให้ดูกันแล้ว 2 ตอน กับการผลิตบ้านด้วยตัวเองจากแนวทางที่นานาประการ เน้นการใช้อุปกรณ์จากธรรมชาติทั้งผองแม้กระทั้งค้อน มีด สิ่ว ล้วนผลิตจากวัสดุธรรมชาติที่หาได้จากในป่าทั้งหมด สำหรับผลงานการผลิตบ้านทั้งผองนี้ทำเพื่อเป็นกิจกรรมเสริมไว้ทดสอบการดำรงชีวิตอาศัยในแบบต่างๆเพื่อมองเห็น

ตามติดชีวิตเจ้าป่าเจ้าเขา สาระพัดแนวทางพึ่งตัวเอง

จุดเด่น จุดอ่อน ดังอาทิเช่นในคลิปคราวก่อน เขาก่อสร้างบ้านโดยใช้หลังคาใบไม้ (ทำมาจากใบปาล์ม) เมื่อเวลาผ่านไปเขาพบว่าหลังคาใบไม้นั้นมีข้อเสียเป็นสลายตัวผุพังไว เนื่องจากความชุ่มชื้น phuket property ทั้งยังยังเป็นแหล่งของแมลงต่างๆบ้านที่จะพาไปดูในวันนี้ ก็เลยเลือกใช้แผ่นกระเบื้องเซรามิก ซึ่งคงจะให้ความทนทานเหมาะสมกับการพักอาศัยมากยิ่งกว่าใบไม้ ส่วนฝาผนังบ้านเลือกใช้ฝาผนังบ้านดิน คุณลักษณะเด่นของบ้านดินเมื่ออากาศร้อนในบ้านดินจะเย็น

เมื่ออากาศหนาวในบ้านดินจะรู้สึกอุ่น โดยส่วนมากเขตก่อสร้างที่ได้ทดสอบนี้ ให้ความหนาวเย็นกว่าธรรมดา เขาก็เลยใช้แนวทางพื้นร้อนที่ ได้แนวความคิดจากประเทศเกาหลีมาใช้งานด้วย แม้กระนั้นสำหรับชาวไทยเองอากาศโดยรวมค่อนข้างจะร้อน บางทีอาจจะตัดขั้นตอนนี้ไปได้ home แค่เพียงได้ดูไอเดียวิธีการทำแผ่นกระเบื้องเซรามิกสำหรับหลังคา แล้วก็ แนวทางการต่างๆเวลา 14 นาทีต่อแต่นี้ไป คุ้มยิ่งนัก

ผลงานโดย : Primitive Technology

บ้านข้างหลังนี้ใช้เวลาทำทั้งผอง 102 วัน แม้กระนั้นมี 66 วันไม่อาจจะทำเป็น village phuket เนื่องจากฝนตก โดยรวมแล้วจึงใช้ช่วงเวลาราวๆ 2 เดือน ขนาดบ้านกว้าง ยาว 2×2 เมตร หลังคาสูง 2.5 เมตร อุปกรณ์หลักที่ประยุกต์ใช้มี ดิน ไม้ รวมทั้ง หิน โดยจะมีขั้นตอนแยกเป็นส่วน ดังต่อไปนี้

ทำองค์ประกอบบ้านด้วยไม้

• ใช้ขวานหินตัดไม้ เพื่อใช้สำหรับทำเสาบ้าน เจาะไม้ให้เป็นรูเพื่อโครงไม้เชื่อมประกอบกัน วิลล่าภูเก็ต ต่อจากนั้นใช้เชือกที่ได้จากเถาวัลย์ ผูกยึดให้แน่น
• ทำเตาดิน สำหรับเผาก้อนอิฐ ทำกระเบื้องหลังคา
• ปั้นดินให้เป็นแผ่นวงกลม สำหรับทำที่กรองเผา เส้นผ่าศูนย์กลาง 25 เซนติเมตร เจาะรู 19 รู เพื่อเป็นช่องว่างกำเนิดประกายที่เป็นประจำ
• ขุดดินให้ลึกลงไปเพื่อใช้สำหรับวางเชื้อเพลิง
• ก่อกองดินให้เป็นทรงกลมแนวดิ่งล้อมแนวที่กรอง phuket village ไว้สำหรับจัดวางแผ่นกระเบื้องหลังคา
• ทำแผ่นหลังคากระเบื้องเซรามิก
• บดดินอย่างละเอียด เพื่อเนื้อของแผ่นกระเบื้องแข็งแรง ถ้ามีเศษไม้หรือเศษอื่นๆปนเปอยู่ จะมีผลให้แผ่นกระเบื้องแตกหักได้ง่าย
• ตัดไม้ไผ่ไว้สำหรับทำเบ้าพิมพ์ โดยการทำเป็นรูปสีเหลี่ยมผืนผ้า
• นำดินที่จัดแจงไว้อัดให้แน่นลงเบ้าแผ่นหลังคา ปั้นเดือยขึ้นมาไว้สำหรับเกี่ยวกับองค์ประกอบหลังคาที่สร้างจากวัสดุไม้
• นำแผ่นดินที่จัดเตรียมไว้วางอิงไฟ เพื่อแผ่นหลังคาแห้ง ภายหลังจากแห้งแล้วสามารถถอดเบ้าได้
• นำแผ่นกระเบื้องทั้งปวง ทำเผาด้วยความร้อนสูง โดยจะใช้ไฟจากเตาเผาที่จัดแจงไว้

ฝาผนังบ้านดิน

ฝาผนังบ้านเลือกใช้ดิน ถ้าท่านใดเคยทำความเข้าใจแนวทางการทำบ้านดินจาก อำเภอโจน จันได จะมองเห็นได้ว่ามีวิธีการใกล้เคียงกัน โดยการทำการขุดหลุมเพื่อย่ำดินให้แน่น แม้กระนั้นหนทางของ อำเภอโจน จะนำดินมาทำเป็นก้อนคล้ายอิฐ โดยมีส่วนผสมของแกลบ ฟาง เพื่อดินยึดเกาะกัน สำหรับไอเดียนี้ ใช้หินทำเป็นแกนหลัก เพื่อกำเนิดความทนทาน ต่อจากนั้นนำดินโคลนมาเกาะติด เบาๆก่อขึ้นมาครั้งละชั้นจนกระทั่งเสร็จ

ถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบบ้านที่สลับซับซ้อนมากยิ่งกว่าคลิปตอนอื่นๆแม้กระนั้นในความสลับซับซ้อนนี่เอง ได้แอบซ่อนความคงทนถาวรแข็งแรงเพื่อเหมาะสมกับ การใช้แรงงานอย่างยั่งยืนสูงที่สุด มั่นใจว่า แม้คนใดกันแน่ได้ดูคลิปดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้แล้ว จำเป็นต้องได้แรงจูงใจบางอย่าง ผลักให้พวกเรามีความเป็นจริงเป็นจังสำหรับเพื่อการพึ่งตนเองเพิ่มมากขึ้น สิ่งจำเป็นข้างหลังดูคลิปนี้เป็นการเริ่มลงมือกระทำ บางทีอาจไม่จำเป็นที่ต้องทำบ้านราวกับเป็นต้นว่าเด็กหนุ่มคนนี้ แต่เพียงเพียงแค่ฝึกฝนเริ่มพึ่งตนเอง ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำเป็น “ยิ่งพึ่งตัวเองได้มากเท่าไร ยิ่งมีอิสระภาพสำหรับในการอยู่รอดได้มากเพียงแค่นั้น”

คุณประโยชน์ซึ่งมาจากการอยู่บ้านดิน

เดี๋ยวนี้พวกเราชอบเห็นที่อยู่อาศัยผุดมากยิ่งขึ้นมายในเมืองหลวงเป็นดอกเห็ด ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือคอนโด ที่ถูกผลิตมาที่จะตอบสนอง ความสบายสบายของคนรุ่นหลัง เหมือนกันกับบ้าน ตามชานเมืองหรือบ้านนอกที่ใช้สิ่งก่อสร้างยุคใหม่ ทำให้พวกเราไม่ค่อยได้มองเห็นสิ่งก่อสร้าง ที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ หรือ ที่พวกเราจะเอ๋ยถึงหมายถึงบ้านที่เกิดจากความคิดอย่าง “บ้านดิน” ที่เริ่มลดน้อยถอยลงไป หากว่าบ้านดินนั้น จะมีคุณประโยชน์มากมายก่ายกอง อย่างที่คนอีกจำนวนไม่น้อยนึกไม่ถึง รวมทั้งคุณประโยช์จากบ้านดินนั้นมีอะไรบ้าง เนื้อหานี้ จะมาเปิดประตูมองคุณค่า ที่คุณอาจละเลยกันไป

• 1 มีคุณลักษณะสำหรับการเป็นฉนวน บ้านดินสามารถรองรับอากาศหนาวจัด แล้วก็ ร้อนมากเจริญ โดยสามารถควบคุมอุณหภูมิระดับ 24-26 องศาเซลเซียส ได้ตลอดทั้งปี รวมทั้ง การดูดซึมความชุ่มชื้นเจริญ คุ้มครองป้องกันบ้านจากความร้อน เนื่องด้วยก้อนอิฐดินเป็นตัวคุ้มครองป้องกัน เพราะเหตุว่ามีความหนาแน่น มากยิ่งกว่าก้อนอิฐมวลค่อยทำให้แดดที่มากระทบ แพร่คลื่นความร้อนออกมา ได้น้อยกว่าบ้านฝาผนังจำพวกอื่นๆ
• 2 ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม รวมทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากว่าอุปกรณ์ที่ใช้จำนวนมากจะเป็นดินที่มีอยู่ตามพื้นที่ต่างๆรวมทั้งเกือบจะไม่จำเป็นต้องใช้ซีเมนต์สำหรับในการก่อสร้าง ทำให้ช่วยลดการปะทุเทือกเขาเอาซีเมนต์ รวมทั้งการทำลายป่า ตัดต้นไม้มาใช้งานในจำนวนมหาศาล
• 3 เรียบง่าย เมื่อเทคโนโลยีแล้วก็สิ่งใหม่เริ่มเติบโต คนรุ่นหลังก็เลยเริ่มห่างจากธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การพำนักบ้านดินจะก่อให้มนุษย์ได้เข้าใจในเรื่องความง่ายๆสำหรับเพื่อการพึ่งตนเองอย่างแท้จริง
• 4 ราคาไม่แพง ถ้าเกิดการผลิตบ้านต้องใช้อุปกรณ์ล้นหลามที่ทำให้จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่าย แม้กระนั้นด้วยการผลิตบเนจะใช้เพียงแค่ดินเป็นส่วนมาก ทำให้บ้านดินมีต้นทุนต่ำลงมากยิ่งกว่ามากมาย ซึ่งในประเทศไทยนั้น ดินในแถบแถบที่ลุ่มภาคกึ่งกลาง ก็เป็นดินเหนียวไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนภาคอีสานเป็นดินเหนียวคละเคล้าทราย ก็เลยทำให้รายจ่ายการผลิตบ้านดิน ถูกต่ำลงไปจากวัตถุดิบที่มีอยู่ในธรรมชาติ
• 5 มีความแข็งแรงแข็งแรง บ้านดินที่ทำขึ้นอย่างถูกทางจะสามารถแก่ยืนนานถึงระดับ 1,000 ปี เพราะว่าความแข็งแรงของดินเหนียวที่ช่วยยึดเกาะอย่างแข็งแรง
• 6 ลดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ บ้านดินนั้นเป็นบ้านที่ผลิตขึ้นมาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติทำให้ไม่ค่อยมีสารเคมีหลงเหลือ แล้วก็ ยังสามารถอยู่เดินคู่กับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน
• 7 คุ้มครองปลวก เนื่องด้วยบ้านยุคใหม่ที่ใช้สร้างจะใช้สิ่งของจากปูนแล้วก็ไม้เยอะมาก ก่อเรื่องปลวกกัดแทะเล็มไม้ แม้กระนั้นกับบ้านดินแล้ว ละเลยเรื่องสัตว์ประเภทนี้ไปได้เลย
• 8 ทนต่อไฟ ดินเหนียวนั้นเป็นประโยชน์ทางอ้อมก็คือจะไม่ติดไฟ แม้กระนั้นสิ่งที่ควรรอบคอบต่อเรื่องไฟเป็น อุปกรณ์ที่ใช้มุงหลังคา แม้ใช้อุปกรณ์ฟางต้นหญ้าสำหรับการมุงหลังคา
• 9 สร้างเองได้ บ้านดินสามารถสร้างเองได้ง่าย เพียงมีแบบส่วนประกอบที่ถูกแล้วก็มีฝีมือรวมทั้งทำเลที่ตั้งที่ดีเสียหน่อย ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะสร้างได้ง่ายยังส่งผลให้พวกเรากำเนิดความภาคภูมิ แล้วก็นำไปสู่การเรียนที่จะอยู่ในวิถีธรรมชาติด้วย

แล้วก็นี่ก็คือประโยชน์ซึ่งมาจากการอยู่บ้านดินที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางทีก็อาจจะไม่คาดฝัน ซึ่งถ้าเกิดคุณพอเพียงมีตั้งซึ่งสามารถสร้างได้ บ้านดินก็นับเป็นอีกโอกาสที่คุณจะได้พักเดินคู่กับวิถีธรรมชาติอย่างแท้จริง

บ้านดิน

• บ้านดินนับว่าเป็นหนึ่งในความคิดเริ่มแรกในหลายพื้นที่ แล้วก็มีวิธีการแนวทางสำหรับในการก่อสร้างที่มากมาย ถัดมาได้รับการศึกษาเล่าเรียนปรับปรุงจนได้รับการรอคอยงรับด้วยข้อบังคับในหลายประเทศ โดยมีการปรับปรุงส่วนประกอบ ดังเช่น การผสมปูนหรือคอนกรีต เพื่อทำให้สามารถทนต่อ การกัดเซาะของฝนได้ดิบได้ดีเยอะขึ้น วิธีการก่อสร้างบ้านดินที่นิยมใช้มีอยู่ 2 แนวทางหมายถึงกระบวนการทำเป็นก้อนอิฐดินดิบ แล้วก็ การใช้โครงไม้ห่อหุ้มด้วยดินผสมฟาง
• ดินที่สมควรสำหรับในการประยุกต์ใช้สำหรับการก่อสร้างบ้านดินหมายถึงดินที่มีดินเหนียวพอเพียง ที่จะทนต่อการกัดเซาะของน้ำ (ฝน) แล้วก็ มีทรายมากพอที่สามารถจะช่วยไม่ให้มีการผิดใจ (จากการที่มีดินเหนียวมากจนเกินไป) ที่สามารถทดลองได้ โดยการนำดินที่มีอยู่ภายในเขตพื้นที่ มาผสมน้ำนิดหน่อย นวด แล้วก็ ปั้นให้เป็นก้อน ขนาดพอๆกับหมัดแล้ว นำไปผึ่งแดดให้แห้ง หากมีรอยแตกร้าวมีความหมายว่าน่าจะผสมทรายเพิ่ม ถ้าหากไม่บาดหมางให้ทดสอบนำไปจุ่มลงไปในน้ำ
• ถ้าหากละลายอย่างเร็วแปลว่ามีทรายมากจนเกินไป สำหรับการทำก้อนอิฐดินดิบจะมีการผสมแกลบ แล้วค่อยนำไปใส่ไม้แบบโดยเมื่อเทดินใส่แล้วจะทำชูไม้แบบออกโดยทันที เพื่อปลดปล่อยให้ก้อนอิฐแห้งก่อนที่จะใช้ประโยชน์ ส่วนสำหรับเพื่อการใช้โครงไม้นั้นควรจะมีแนวทางการทำฝาผนังส่วนประกอบตีเป็นตาราง (ให้มีช่องว่างพอที่จะลอดแขนเข้าไปดำเนินงานได้ทั้งคู่ด้าน) ต่อจากนั้น นำดินที่ผสมฟางเส้นยาวมาวางพิงแล้วจากนั้นก็ลูบผิวให้เรียบ
• จุดเด่นของแนวทางการทำก้อนอิฐดินดิบเป็น สามารถทยอยทำก้อนอิฐสะสมไว้ก่อนได้ รวมทั้ง ใช้เวลาไม่มากมายในตอนก่อสร้าง สามารถใช้เป็นฝาผนัง หรือ องค์ประกอบรับน้ำหนักได้ ในช่วงเวลาที่การใช้โครงไม้หุ้มห่อด้วยดินนั้นจึงควร มีส่วนประกอบหลักที่จะรับน้ำหนักหลังคา (ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นเหล็กคอนกรีต ก้อนอิฐดินดิบ หรือสิ่งของอื่นก็ได้) แม้กระนั้นก็สามารถทำเป็นอย่างเร็ว

แม้กระนั้นบ้านดินยังคงมีจุดด้วย เป็นแพ้น้ำที่บางทีอาจท่วมขังในระยะยาว การออกแบบจำเป็นจะต้องทำรากฐานรวมทั้งมีชายคาที่ยื่นยาว เพื่อคุ้มครองความชุ่มชื้นจากดิน และก็ ฝนที่จะปะทะกับ ฝาผนังดินโดยตรง และ ไม่อาจจะสร้างบนพื้นที่ ซึ่งอาจมีอุทกภัยขัง ละเว้นการผสมก่อสร้างด้วยดินผสมคอนกรีตในอัตราสว่นโดยประมาณ 7-10 เปอรเ์ซ็นต์