บ้านสไตล์อิงลิชคันทรี่
บ้านสไตล์อิงลิชคันทรี่ สวยงามน่าอยู่
บ้านสไตล์อิงลิชคันทรี่ สวยงามน่าอยู่ จะมีหนึ่งสไตล์ที่ชอบมาก นั่นก็คือ สไตล์อิงลิชคอทเทจ บ้านกระท่อมสีขาวในบรรยากาศอบอุ่นของต่างประเทศ อาณาบริเวณบ้านรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ property phuket จะว่าไปแล้วสไตล์อิงลิชคอทเทจ จะมีความคล้ายกับสไตล์คันทรี่อยู่เหมือนกัน คือการตกแต่งโดยเน้นวัสดุจากธรรมชาติ และนำบรรยากาศอบอุ่นเข้าสู่ตัวบ้าน รวมไปถึงการใช้ของเก่ามาตกแต่งบ้าน แต่จะแตกต่างกันตรงที่หยิบความไม่สมบูรณ์ของวัสดุเข้ามาตกแต่งให้ดูมีเรื่องราว และเจือด้วยอารมณ์หวานๆ สำหรับใครที่ชอบสไตล์นี้เหมือนกัน ต้องไม่พลาดไอเดียที่เรานำมาฝาก เพื่อนำไปปรับให้เข้ากับวิถีของตนเอง พร้อมแล้วไปดูกันเลย บ้านเดี่ยว
ทริค เล็กๆ กับการตกแต่งบ้านสไตล์อิงลิชคันทรี่
1. ทำความรู้จักบ้านคันทรี
บ้านสไตล์คันทรีในแต่ละท้องถิ่นนั้นมีลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างในเมืองไทยก็จะเป็นบ้านท้องถิ่นในภูมิภาคต่าง ๆ ที่เห็นภาพได้ชัดก็เป็นเรือนไทยในแต่ละภาค ซึ่งมีอัตลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ่น แต่หากในนึกภาพบ้านสไตล์คันทรีภาพแรกที่ปรากฏมักจะเป็นภาพบ้านหลังเล็กท่ามกลางทุ่งหญ้าท้องนา มีสัตว์เลี้ยงอย่างวัว แกะ และโรงนาอยู่รอบด้าน ซึ่งภาพที่คุ้นตานี้เป็นบ้านคันทรีแบบยุโรป และในเมืองไทยเองก็นิยมตกแต่งบ้านให้เป็นคันทรีแบบยุโรปเสมอ property phuket ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่ดูอบอุ่นธรรมดาแต่สวยงามเลยทำให้คันทรียุโรปเป็นที่ตราตรึงใจคนไทยเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นอิงลิชคันทรีที่ดูอ่อนหวาน สไตล์ทัสคานีชนบทในประเทศอิตาลีที่ดูอบอุ่น หรือจะเป็นสไตล์โปรวองซ์เมืองโรแมนติกที่ฝรั่งเศสที่ส่งผ่านงานดีไซน์ที่ดูอ่อนนุ่ม
2. วัสดุที่เลือกใช้
แน่นอนว่าวัสดุที่ใช้ตกแต่งบ้านสไตล์คันทรีนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับท้องถิ่นนั้น ๆ อย่างบ้านสไตล์ทัสคานีก็จะโดดเด่นในเรื่องของผนังดินซึ่งเป็นดินพื้นเมือง ส่วนอิงลิชคันทรีก็จะเด่นในเรื่องการใช้ผ้าลวดลายกุหลาบ อันเป็นดอกไม้ประจำประเทศอังกฤษ แต่หากให้พูดถึงภาพรวมแล้ว วัสดุที่ใช้ตกแต่งบ้านคันทรีหลัก ๆ ก็มีดังนี้
– ไม้ ด้วยเสน่ห์ของเนื้อไม้ที่มีลวดลายที่รังสรรค์ขึ้นเองทำให้เท็กซ์เจอร์ที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความแปลกใหม่ได้เสมอ การใช้ไม้เข้ามาตกแต่งบ้านสไตล์คันทรีจึงมักจะโชว์ลายไม้อย่างเต็มที่ หลีกเลี่ยงการฟอกสีอื่นที่ไม่ใช่สีไม้ธรรมชาติ ชนิดของไม้ที่นิยมใช้ได้แก่ ไม้สน ไม้แอช ไม้โอ๊ค ไม้มะฮอกกานี รวมทั้งไม้สักที่หาได้มากในเมืองไทยด้วย
– หิน ใช้ประโยชน์ในบ้านคันทรีคือ ใช้ปูพื้นและกรุผนังเพื่อความสวยงาม หินที่นิยมใช้ปูพื้นหลัก ๆ ก็จะมีหินอ่อน หินแกรนิต แล้วแต่งบประมาณของเจ้าของบ้าน ส่วนหินที่ใช้กรุผนังนั้นก็จะเป็นหินภูเขา หินทรายตัด และปัจจุบันมีวัสดุทดแทนหินมากมายออกมาเป็นทางเลือก ซึ่งให้ความสวยงามไม่แพ้หินแท้เลยทีเดียว
– ผ้า เป็นวัสดุเพื่อการตกแต่งอย่างแท้จริง ทั้งนี้ผ้าทำได้หลายอย่างมากกว่าเป็นแค่ผ้าม่าน คือเป็นผ้าบุโซฟาก็ได้ เป็นหมอนอิง เป็นชุดผ้าปูที่นอน ผ้าที่เหมาะสมกับบ้านสไตล์คันทรีต้องเป็นเส้นใยมาจากธรรมชาติ อาทิ ผ้าฝ้าย ฝ้าลินิน รวมทั้งผ้าที่ทอขึ้นจากขนสัตว์อย่างขนแกะ เป็นต้น property phuket
3. ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์
การเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับสไตล์คันทรีนั้นมีจุดสังเกตง่าย ๆ คือ ทำจากไม้ เรียบ ๆ แต่ไม่ธรรมดา อย่างมีการโชว์ลายไม้ ทำสีขัด เสี้ยนขาว หรือขัดถลอก ความธรรมดาเหล่านี้เองที่เป็นตัวสร้างความอบอุ่นให้ดูดังว่าเป็นดีไซน์ดั่งเดิม ไม่เน้นเรื่องราวแต่เน้นที่การกลึงไม้เข้ารูปให้เป็นทรง หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ผ้า ผ้าก็จะดูอ่อนนุ่ม การถักทอมีช่องระบายค่อนข้างห่าง ออกแบบบ้าน โทนสีจะไม่ฉูดฉาดมากมองแล้วดูสบายตาเหมือนสีที่ได้จากการย้อมธรรมชาติ
4. แต่งเติมให้ครบ
นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว การสร้างบรรยากาศของบ้านให้เหมือนอยู่ในชนบทยุโรปก็ไม่ควรมองข้าม อย่างการสร้างเตาผิงจริงละเตาผิงเทียมให้อยู่ในบ้าน การเลือกของประดับตกแต่งจากเซรามิก ถ้วยจานเพ้นท์ลาย กรุผนังด้วยปีกไม้ให้ดูดั่งว่าเป็นบ้านไม้จริง ๆ หรือแม้แต่งการเลือกการน้ำชา ถ้วย จาน เครื่องใช้ในครัว หากเลือกในโทนเดียวกันก็จะทำให้บ้านคันทรีสมบูรณ์ขึ้น phuket villa