ออกแบบชายคาบ้าน
ออกแบบชายคาบ้าน
ออกแบบชายคาบ้าน “ชายคา” องค์ประกอบสำคัญของบ้าน ช่วยปกป้องบ้านจากแสงแดดและลมฝน บ้านไหนไม่มีชายคา มักจะเจอปัญหาบ้านร้อนอบอ้าวและฝนสาด เพราะแสงแดดและลมฝนจะกระทบกับผนังบ้านและช่องหน้าต่างโดยตรง ชายคาจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบ้านพักอาศัยในเขตร้อนชื้นอย่างเช่นประเทศไทยเนื้อหานี้ นำแนวทางการออกแบบชายคาบ้าน โดยสถาปนิก PunPlan ซึ่งไม่เพียงแค่รองรับกับบ้านหลังคาจั่วหรือปั้นหยาแบบไทย ๆ เท่านั้น แต่ยังสามารถประยุกต์ใช้ ทำชายคาร่วมกับบ้านสไตล์โมเดิร์นได้อีกด้วยครับ
ออกแบบชายคาบ้านให้ใช้ทน
“ชายคา” องค์ประกอบสำคัญของบ้าน ช่วยปกป้องบ้านจากแสงแดดและลมฝน บ้านไหนไม่มีชายคา มักจะเจอปัญหาบ้านร้อนอบอ้าวและฝนสาด เพราะแสงแดดและลมฝนจะกระทบกับผนังบ้านและช่องหน้าต่างโดยตรง ชายคาจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบ้านพักอาศัยในเขตร้อนชื้นอย่างเช่นประเทศไทยเนื้อหานี้ นำแนวทางการออกแบบชายคาบ้าน โดยสถาปนิก PunPlan ซึ่งไม่เพียงแค่รองรับกับบ้านหลังคาจั่วหรือปั้นหยาแบบไทย ๆ เท่านั้น แต่ยังสามารถประยุกต์ใช้ ทำชายคาร่วมกับบ้านสไตล์โมเดิร์นได้อีกด้วยครับ
สนับสนุนโดย : SCG Building Materials
ออกแบบ : PunPlan
1. ระยะชายคายื่นยาวกี่เมตรดี
ระยะฝ้าชายคาบ้านตามมาตรฐาน มีระยะยื่นประมาณ 80-120 เซนติเมตร ระยะดังกล่าวเป็นระยะที่งานโครงสร้างหลังคาทั่วไปรองรับ ช่วยกันแดดกันฝนได้พอประมาณ แต่หากต้องการให้ป้องกันแดดฝนได้ดียิ่งขึ้น ชายคาควรมีระยะยื่นออกจากตัวบ้าน 100-200 เซนติเมตร ซึ่งจะช่วยปกป้องบ้านจากฝนและแสงแดดได้เป็นอย่างดี แต่จำเป็นต้องเสริมงานโครงสร้าง เช่น เสริมแขนค้ำหรือทำเสามารับชายคา
อย่างไรก็ตามระยะฝ้าชายคาควรคำนึงถึงความเหมาะสมของงานออกแบบนั้น ๆ ร่วมด้วย เพราะหากชายคายื่นยาวเกินไปอาจทำให้บ้านดูแปลกตา ไม่เข้าสัดส่วน ซึ่งฝ้าชายคาที่ยาวพิเศษจะเหมาะกับบ้านสไตล์ Tropical Modern เป็นสไตล์ที่เหมาะกับภูมิอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทยครับ
2. ชายคาของบ้านโมเดิร์นทรงกล่อง
บ้านกล่องสไตล์โมเดิร์นกับฝ้าชายคาบ้าน เป็นฟังก์ชันที่มักขัดแย้งต่อกัน ด้วยรูปทรงกล่องที่เน้นความเฉียบคมดูเนียนตา สถาปนิกจึงไม่นิยมออกแบบฝ้าชายคาให้บ้านโมเดิร์นเท่าไหร่นัก แต่การอยู่อาศัยในพื้นที่เขตร้อนชื้นฝนตกชุกอย่างประเทศไทย แม้รูปแบบจะโมเดิร์นแค่ไหน ก็จำเป็นต้องประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม
แนวทางที่สถาปนิกปันแปลนนำมาใช้บ่อย เป็นการนำระเบียงมาประยุกต์ อาจออกแบบระเบียงยื่นจากตัวบ้านหรือเว้าพื้นที่ระเบียงเข้าไป โดยเน้นทำเฉพาะจุดที่มีบานประตูกว้าง ๆ เพื่อให้หลังคาระเบียงเป็นเสมือนพื้นที่ชายคา ช่วยทั้งบังแดด บังฝน และเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนตากอากาศได้ อย่างภาพประกอบด้านล่างนี้จะสังเกตได้ว่า การยื่นระเบียงชั้น 2 ทำให้เกิดพื้นที่ชายคาชั้น 2 และพื้นของระเบียงชั้น 2 ยังเป็นเสมือนชายคาของชั้น 1 อีกด้วย
3. ชายคาคอนกรีต “ขอบบนกันน้ำล้น ขอบล่างกันน้ำย้อน”
สำหรับบ้านโมเดิร์นบางจุดอาจไม่เหมาะกับทำระเบียง สถาปนิกมักออกแบบชายคาคอนกรีตให้มีระยะยื่นมาทดแทนชายคาทั่วไป จุดสำคัญของชายคาคอนกรีตคือระบบกันซึม จำเป็นต้องใช้คอนกรีตชนิดกันซึมพร้อมกับทาน้ำยากันซึมทับอีกชั้น และด้วย Slope ของชายคาที่มีไม่มากนัก จึงมักมีผลกับปัญหาน้ำหยดย้อยบริเวณปลายชายคา วิธีป้องกันสามารถทำได้ด้วยวิธีหล่อคอนกรีตขอบชายคากันน้ำ ทั้งด้านบนและด้านล่าง โดยขอบชุดบนทำหน้าที่กั้นน้ำ ให้น้ำไหลตามจุดระบาย
4. เซาะร่องกันน้ำย้อน
อีกรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ควรให้ความสำคัญหากต้องการทำชายคาด้วยงานคอนกรีต คือ การเซาะร่องเพื่อป้องกันน้ำไหลย้อน เมื่อมีฝนสาดหรือน้ำไหลบริเวณขอบชายคา น้ำจะหยุดไหลและหยดลงเมื่อมาถึงร่องขอบที่เซาะไว้ จะช่วยป้องกันชายคาจากความชื้น ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิมวัสดุที่ใช้เซาะร่องนิยมใช้ร่องตัว U มีให้เลือกทั้งแบบ PVC และ อลูมิเนียม แนะนำขนาด 6 mm ก็เพียงพอครับ
5. วัสดุทำฝ้าชายคา
บ้านหลายหลังเจอปัญหาฝ้าชายคาผุพัง มีรอยคราบน้ำ สาเหตุหลักเกิดจากการเลือกวัสดุฝ้าที่ไม่เหมาะสม เพราะด้วยตำแหน่งของชายคาเป็นพื้นที่กึ่งภายนอก วัสดุทำฝ้าจึงต้องมีคุณสมบัติป้องกันแดด ฝนได้ดีและควรเป็นฝ้าที่ปลวกไม่กินวัสดุที่สถาปนิกมักนำมาสเปกงานฝ้าชายคาให้เจ้าของบ้าน อาทิเช่น ฝ้าไม้สังเคราะห์จากวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ , WPC และที่นิยมสุด คือ ฝ้าไฟเบอร์ซีเมนต์ เช่น ฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เนื่องจากฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ถูกออกแบบมาให้มีความทนทาน ทนแดด ทนฝน รองรับการใช้งานกับสภาพอากาศในเมืองไทย ปัจจุบันมีรุ่นให้เลือกหลากหลายดีไซน์ ทั้งแบบผิวเรียบและนำมาสีน้ำอะคริลิคตามเฉดสีที่ชอบ การทำเส้นเซาะร่อง หรือแม้แต่ลายไม้ ซึ่งฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี มีรุ่นที่มีลายไม้สำเร็จ เพียงให้ช่างทำสีไม้ก็จะได้อารมณ์เสมือนไม้จริง หมดกังวลปัญหาปลวกที่จะตามมาภายหลัง
6. เลือกใช้ฝ้าชายคาระบายอากาศ
70% ของปัญหาบ้านร้อนเกิดจากแสงแดดสาดส่องลงหลังคาบ้าน ก่อให้เกิดความร้อนสะสมใต้โถงหลังคาและค่อย ๆ แผ่รังสีความร้อนลงสู่ฝ้าเพดานภายในบ้าน การออกแบบฝ้าชายคาให้สามารถระบายอากาศได้จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระจายความร้อนออกจากโถงหลังคาก่อนที่ความร้อนดังกล่าวจะแผ่ลงตัวบ้าน
ปัญหานี้สามารถแก้ไขด้วยการทำฝ้าชายคาตีแบบเว้นร่อง เพื่อให้เกิดช่องว่างเล็ก ๆ ให้อากาศถ่ายเทได้ อย่างบ้านไทยในอดีตจะใช้วิธีตีฝ้าด้วยไม้ซึ่งจะมีช่องว่างเล็ก ๆ แต่สำหรับบ้านยุคใหม่ ปัจจุบัน ฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี รุ่น ระบายอากาศ–โพรเทคชั่น มีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งยังมีตาข่ายกันแมลงสำเร็จรูปติดแนบสนิทกับแผ่นฝ้ามาจากโรงงาน จึงช่วยระบายอากาศและป้องกันแมลงเข้าไปทำรังใต้ฝ้าได้ครับ
7. ปิดขอบชายคาด้วยเชิงชาย
งานหลังคามักมีงานโครงสร้างและวัสดุต่าง ๆ มาประกอบรวมกัน อาจส่งผลให้งานดูไม่เรียบร้อย สถาปนิกจึงมักเก็บความเรียบร้อยด้วยเชิงชาย ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบ เช่น กรณีเป็นหลังคากระเบื้องทั่วไปนิยมใช้ร่วมกับไม้เชิงชาย เอสซีจี ซึ่งเป็นวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ ที่มีการออกแบบมาให้เส้นสายดูตรงได้แนวหรือกรณีบ้านสไตล์โมเดิร์นนิยมนำไม้ตกแต่ง เอสซีจี รุ่น ซี-ชาแนลหรือรุ่น ซี-ชาแนล พลัส มาประยุกต์ทำเป็นฝ้าชายคาที่มีความเรียบเท่เสมือนงานเหล็ก
ออกแบบหลังคาบ้านอย่างไร ให้ดูแลง่าย ประหยัดงบก่อสร้าง
โดยเฉลี่ยแล้วงบประมาณการก่อสร้างบ้านแต่ละหลัง จะถูกแบ่งเป็นงานหลังคาประมาณ 7-15% ขึ้นอยู่กับว่าบ้านหลังนั้นใช้หลังคารูปแบบใด วัสดุใด และเป็นที่ทราบกันดีว่า หากต้องการลดงบประมาณงานหลังคาให้ต่ำลง หลังคาเมทัลชีทจะสามารถตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดีครับปัจจุบันเราจึงสังเกตเห็นได้ว่า บ้านเรือนสมัยใหม่ในไทยนิยมหันมาใช้หลังคาเมทัลชีทกันมากขึ้น หรืออาจมากกระทั่งแซงหลังคากระเบื้องซีแพคไปแล้วก็เป็นได้ เนื้อหานี้พาไปเจาะลึกงานดีเทลหลังคากันอย่างละเอียด เพื่อให้เจ้าของบ้านประหยัดทั้งงบวัสดุ งบค่าแรง และประหยัดไปถึงการดูแลรักษาในอนาคต
4 แนวทางออกแบบหลังคาเมทัลชีทให้ประหยัด
จบผืนเดียว ติดตั้งง่าย ไม่ซับซ้อน
สำหรับงานหลังคา หากมีการออกแบบและการติดตั้งที่ซับซ้อนมากเท่าไหร่จะยิ่งเพิ่มต้นทุนหลังคามากขึ้นเท่านั้น และหากงานหลังคาซับซ้อนหรือมีรอยต่อมาก จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการเกิดปัญหารั่วซึมภายในอนาคตได้ งานหลังคาที่ดูแลง่ายจึงช่วยเจ้าของบ้านประหยัดตั้งแต่งบวัสดุ ค่าแรง และค่าดูแลรักษาภายหลัง
หลังคาที่สามารถจบในผืนเดียวได้ดีที่สุดคือหลังคาแบบ Lean To หรือนิยมเรียกกันว่าเพิงหมาแหงนหรือหลังคาทรงโมเดิร์นนั่นเองครับ หลังคาประเภทนี้หากใช้เมทัลชีทในการติดตั้ง จะสามารถสั่งตัดเมทัลชีทตามขนาดความยาวของหลังคาได้เลย ซึ่งช่วยลดรอยต่อของแผ่นหลังคา สามารถลดการเกิดปัญหารั่วซึมได้ การติดตั้งช่างติดตั้งได้ง่าย ประหยัดงบอุปกรณ์ Flashing และสามารถออกแบบให้ Slope ของหลังคาทำองศาต่ำได้ครับ
มีชายคา กันแดด กันฝน
ปัจจุบันบ้านสมัยใหม่นิยมนำหลังคาเมทัลชีท มาประยุกต์ใช้ร่วมกับบ้านกล่องสไตล์โมเดิร์น ซึ่งในอดีตการทำบ้านลักษณะนี้จะต้องใช้หลังคาคอนกรีต Slab เท่านั้น ทำให้มีต้นทุนสูงกว่าหลังคาทั่วไปและมักเกิดปัญหารั่วซึมภายหลัง ด้วยคุณสมบัติเด่นของเมทัลชีทที่สามารถทำองศาได้ต่ำ สถาปนิกจึงนำคุณสมบัตินี้ ทำการซ่อนหลังคาไว้ในกล่อง เมื่อมองบ้านจากภายนอก จะมองไม่เห็นหลังคา จึงช่วยลดงบประมาณ ลดปัญหางานหลังคาไปได้มากครับ
อย่างไรก็ตาม แม้วิธีการนี้จะช่วยลดต้นทุนงานหลังคาไปได้มากแล้ว แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายจุกจิกซ่อนอยู่ และการดูแลรักษาระยะยาวค่อนข้างยาก เพราะหากมีอะไรมาอุดตันระบบรางน้ำที่ถูกซ่อนไว้ภายใน อาจส่งผลให้เกิดการรั่วซึมได้เช่นกันครับ
หากต้องการประหยัดงบก่อสร้าง และให้บ้านดูแลง่ายในระยะยาว การออกแบบหลังคาบ้านให้มีชายคากันแดดยื่นออกนอกอาคารประมาณ 1-2 เมตร จะช่วยบังแดด ป้องกันฝนสาด และดูแลง่ายกว่าหลังคาซ่อนเมทัลชีทมากครับ เพราะหลังคาลักษณะนี้มีระบบระบายน้ำที่ไม่ซับซ้อน สามารถปล่อยตามธรรมชาติได้เลย หรือหากต้องการเพิ่มรางน้ำก็สามารถเพิ่มรางบริเวณขอบรอบหลังคาได้ทันที
Slope หลังคา 5 องศาขึ้นไป
เมื่อเทียบคุณสมบัติของเมทัลชีทกับวัสดุหลังคาประเภทอื่น ๆ แล้ว ก่อสร้างบ้านเมทัลชีทนับเป็นวัสดุหลังคาที่สามารถทำองศาหลังคาได้ต่ำมาก หากเป็นเมทัลชีททั่วไป รองรับ Slope หลังคาต่ำสุดที่ 5 องศา แต่หากต้องการให้ต่ำกว่านี้จะมีรุ่นพิเศษแบบคลิปล็อก รองรับได้ต่ำสุดถึง 3 องศาเลยครับ อย่างไรก็ตามต้องให้ความสำคัญกับโครงสร้างหลังคาเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการตกท้องช้างของแผ่นหลังคาครับ
และแน่นอนว่า เมื่อเป็นรุ่นพิเศษราคาย่อมพิเศษตาม หากเจ้าของบ้านเน้นประหยัดงบประมาณ การเลือกที่จะออกแบบหลังคาให้มีองศาตามมาตรฐานที่วัสดุเมทัลชีทรุ่นทั่วไปสามารถทำได้ จึงช่วยประหยัดงบก่อสร้างได้ดีกว่า ทั้งยังหาซื้อวัสดุได้ง่าย และเมื่อ Slope หลังคามีความลาดชันมากขึ้น การระบายน้ำฝนจะสามารถระบายได้รวดเร็วกว่าด้วยครับ
เลือกหลังคาสีขาว สีครีม
ปัจจุบันเมทัลชีทของบลูสโคป มีให้เลือกหลายเฉดสี พร้อมผ่านกระบวนการเคลือบสีสะท้อนความร้อนมาให้ในตัว เช่น บลูสโคป แซคส์ คูล® (BlueScope Zacs Cool®) ที่มี Cool coating Technology แต่หากหลังคาบ้านของผู้อ่าน ออกแบบตาม 3 แนวทางข้างต้นแล้ว สีสันที่สวยงาม ย่อมไม่จำเป็นเพราะจะมองไม่เห็นจากด้านล่างเลยครับ
การเลือกหลังคาเมทัลชีทสีขาว สีครีม ซึ่งเป็นเฉดสีอ่อนที่มีคุณสมบัติการสะท้อนความร้อนได้ดีกว่าหลังคาสีเข้ม ทำให้ถ่ายเทความร้อนเข้ามาสู่ตัวบ้านได้น้อย หากเป็นหลังคาสีเข้มจะมีคุณสมบัติการดูดความร้อนสูง ซึ่งการเลือกใช้หลังคาสีอ่อนจะช่วยสะท้อนความร้อน ลดการสะสมความร้อนภายในบ้าน และยังช่วยให้ประหยัดค่าไฟแอร์ได้อีกด้วยครับ
รูปลอนหลังคา ให้เลือกลอนมาตรฐาน เพราะจะมีราคาที่ย่อมเยากว่า ลอนดีไซน์พิเศษอื่นๆ เพราะลอนใหญ่ อย่างลอน 360SEAM ดังกล่าวจะเหมาะกับบ้านที่เน้นโชว์งานหลังคาเป็นพิเศษ หรือนำแผ่นเมทัลชีทมาใช้ในงานตกแต่งผนัง หากเป็นหลังคาตามแนวทางที่แนะนำไว้ ลอนทั่วไปก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ