บ้านตู้คอนเทนเนอร์
บ้านตู้คอนเทนเนอร์ ชีวิตเรียบง่ายที่เข้าได้กับชนบท
บ้านตู้คอนเทนเนอร์ ชีวิตเรียบง่ายที่เข้าได้กับชนบทปัจจุบันนี้การสร้างบ้านแต่ละหลังต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง อย่างต่ำ ๆ ก็หลักแสน ยิ่งถ้าต้องการพื้นที่กว้าง ๆ ดีไซน์สวยๆ property phuketก็ต้องเพิ่มเงินลงไปอีก กว่าจะได้บ้าน 1 หลังบางครั้งก็ต้องใช้เงินที่เก็บมาทั้งชีวิต จึงมีแนวคิดทางเลือกที่จะสร้างบ้านในแบบใหม่ ๆ มาให้ปรับประยุกต์ใช้เป็นบ้าน เช่น บ้านรถ โรงสีเก่า หรือตู้คอนเทนเนอร์ ที่กำลังเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อย ๆ เพราะราคาที่ไม่สูงมาก เคลื่อนย้ายได้ และมีโครงสร้างที่เป็นเหล็กแข็งแรงอยู่แล้ว แต่อาจจะต้องนำมาปรับปรุงใส่ฉนวนกันร้อน เจาะช่องประตูหน้าต่างเพิ่ม ตกแต่งภายในอีกนิดหน่อย ก็เป็นบ้านเท่ ๆ พร้อมอยู่ได้เช่นกันครับบ้านเดี่ยว
แปลงร่างตู้ขนสินค้า ให้เป็นบ้านกลางชนบท
บ้านตู้คอนเทนเนอร์ขนาดพื้นที่ใช้สอย 134 ตารางเมตร ผลงานของกลุ่มสถาปนิก river & rain ที่แปรสภาพตู้คอนเทนเนอร์เก่า 4 ตู้ มาประกอบใช้ใหม่ เป็นบ้านที่ความวุ่นวายในเมืองใหญ่มาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสงบในย่านชานเมือง Dhaka ประเทศบังคลาเทศ เป็นตู้เหล็กสี่เหลี่ยมproperty phuketที่ครบถ้วนสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิต ประกอบด้วย ห้องนอน ห้องน้ำ ครัว ห้องนั่งเล่น ที่เต็มไปด้วยช่องเปิดขนาดใหญ่ เฉลียง และพื้นที่กลางแจ้งมากมายที่ให้โปร่งเบา ถึงจะมีโครงสร้างค่อนข้างใหญ่แต่กลมกลืนไปกับบริบทแวดล้อม
ความยุ่งยากในการออกแบบบ้านที่ทำจากตู้ขนส่งสินค้านี้ดูเหมือนจะไม่มี เพราะแค่นำมาวางซ้อน ๆ กัน ผนังที่ทำจากเหล็กก็แข็งแรงไม่ต้องทำอะไรมาก แต่จริง ๆ แล้วกว่าจะได้ออกมาเป็นผลงานแบบนี้ ต้องผ่านการคำนวณการรับน้ำหนัก การออกแบบจัดวางตำแหน่งและทิศทางของตู้ การใส่ฉนวนกันความร้อน และขั้นตอนที่ซับซ้อนต่อมาคือ การปรับเปลี่ยนเชิงพื้นที่ของคอนเทนเนอร์ให้เข้ากับบรรยากาศภายในบ้านที่ต้องอยู่สบาย ซึ่งมีข้อจำกัดในการออกแบบที่สำคัญ คือ รูปลักษณ์ที่ถูกปิดทั้ง 4 ด้าน ทำให้ดูทึบ ไม่มีเสน่ห์ และพื้นที่ของตู้คอนเทนเนอร์แต่ละตู้ที่จำกัด
ทีมงานจึงต้องทำการเจาะผนังตู้ให้มีช่องเปิดขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มปริมาตรให้กับพื้นที่ สร้างความต่อเชื่อมระหว่างภายในภายนอก และดึงแสงสวางเข้าสู่ตัวตู้การจัดภูมิทัศน์รอบ ๆ บ้านให้เป็นพื้นที่กลางแจ้ง ปลูกหญ้าสีเขียวอ่อน ใส่เสน่ห์ที่น่าหลงไหลให้กับบ้าน property phuketทำให้สมาชิกในบ้านอดไม่ได้ที่ออกมานั่งเล่นเพลิดเพลินไปกับความสดชื่นของทิวทัศน์ สายลม ท้องฟ้าที่ศาลาด้านนอก
บ้านตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น ให้ธรรมชาติเป็นโล่กำบังร้อน
บริเวณสะพานเชื่อมระหว่าง 2 ส่วนอาคาร เป็นโถงสูงเกือบเท่าอาคารสามชั้น ใส่ความมีชีวิตชีวาด้วยใบสีเขียวของต้นอัลมอนด์ ให้ความงามตามธรรมชาติช่วยลดความเคร่งขรึมของผนังเหล็ก และต้อนรับทุกคนที่ก้าวเข้ามาภายในด้วยความเป็นมิตร ระแนงด้านข้างและซุ้มระแนงด้านบนเตรียมสำหรับปลูกองุ่นให้เถาไม้เลื้อยปกคลุมคล้ายผ้าคลุมกำมะหยี่สีเขียว ที่จะช่วยกำบังแดดลดการซึมผ่านความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ในอนาคตพื้นที่ชั้นล่างจะเป็นส่วนของห้องครัว ห้องนั่งเล่น ซึ่งจะเชื่อมต่อกับห้องทานอาหารกึ่งเอาท์ดอร์ที่ต่อเติมออกมาจากตัวตู้ ชั้นนี้จะถูกคลุมด้วยโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ นอกจากจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้บ้านแล้ว ยังช่วยรองรับน้ำหนักของตู้ชั้นบนที่ยาวเป็นพิเศษด้วย
ห้องสี่เหลี่ยมติดกระจกแยกตัวออกมาทางขวามือ เป็นส่วนใช้งานอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะทำงาน นั่งเล่น หรือรับแขก เป็นพื้นที่ที่มีเป็นส่วนตัวไม่ถูกรบกวนจากส่วนอื่น ๆ ของบ้าน จากส่วนนี้จะมีสพานและบันไดเชื่อมต่อขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่อีกด้านหนึ่งจากสะพานเชื่อต่อขึ้นมายังส่วนของตู้ที่ยาวติดกัน 2 ตู้ ตกแต่งเป็นห้องนอน 2 ห้อง ซึ่งเจาะผนังใส่ช่องเปิดขนาดใหญ่ ติดตั้งประตูกระจกทำให้รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ มองเห็นทิวทัศน์ได้เต็มตา ค้นหารูปแปลงที่ดิน
แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องปริมาณของแสงที่จะมากเกินไป เพราะทีมงานติดตั้งม่านม้วนเอาไว้เพื่อช่วยกั้นกรองแสง ซึ่งม่านแบบนี้จะไม่ดูรุงรังช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่โมเดิร์นขึ้น ในส่วนของผนังและเพดานด้านที่เหลือภายในกรุงานไม้สวย ๆ ให้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติ จนลืมไปเลยว่านี่คือตู้ขนสินค้าเก่าที่ทำจากแผ่นเหล็กมุมมองจากห้องนอนผ่านทะลุกระจกใสออกไปรับแสงสวยๆ ยามพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เชื่อมต่อธรรมชาติที่แสนงดงามเข้าสู่ภายในทุก ๆ วันของทุกฤดู
ด้วยรูปลักษณ์ที่ให้อารมณ์โรแมนติกแบบชนบท และความสูงตระหง่านของบ้าน ทำให้บรรยากาศรอบบ้านดูเหงา ๆ และโดดเดี่ยว สถาปนิกจึงตั้งใจใส่สัมผัสธรรมชาติเข้าไปรอบ ๆ ตัวบ้าน พยายามเว้นพื้นที่ว่างและเพิ่มผนังกระจก เพื่อให้บ้านโปร่งสบายในตอนกลางวัน และส่องแสงเปล่งประกายดูมีชีวิตชีวาในตอนกลางคืน